เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เมทัลชีท เป็นวัสดุที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการดูแลจัดการระยะยาว เพราะตัววัสดุมีการเคลือบผิว เพียงน้ำสะอาดหรือน้ำฝนที่ตกลงมาก็สามารถช่วยชะล้างสิ่งสกปรกออกไปได้ แต่ก็มีบางปัจจัยที่ส่งผลให้ต้องมีการเพิ่มการดูแลผิววัสดุขึ้นมาอีกเล็กน้อย
จุดที่ควรเพิ่มการทำความสะอาดเป็นพิเศษ สำหรับบ้านหรืออาคารที่ใช้เมทัลชีท
เมทัลชีทเป็นวัสดุที่ติดตั้งได้ง่าย ใช้สะดวก และปรับใช้ได้กับหลายๆ ส่วนของอาคาร ไม่ว่าจะเป็นหลังคา ผนัง หรือแม้แต่ฝ่าเพดาน แม้จะมีลักษณะผิวที่ไม่ค่อยสกปรก ทำความสะอาดง่าย รอให้ฝนตกลงมาก็สะอาดได้ แต่ก็มีบางจุดที่อยูในซอกหลืบที่น้ำฝนชะล้างไม่ถึง เช่นพื้นผิวบริเวณใต้ขอบหลังคา ประตูโรงรถ ผนังที่อยู่ใต้ชายคาหรือรางน้ำเป็นต้น ซึ่งพื้นที่เหล่านี้จะเป็นจุดที่สามารถมีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกมาสะสม ซึ่งอาจกลายเป็นสาเหตุของการกัดกร่อนในอนาคตได้ จึงเป็นจุดที่ควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ และคอยปัดเช็ดเศษฝุ่นผงต่างๆ โดยเฉพาะหากพื้นที่ตั้งของบ้านหรืออาคารอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความรุนแรง อาทิ ได้รับอิทธิพลจากทะเล, มีมลพิษในพื้นที่ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม, อยู่ในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกในอากาศสูง เป็นต้น ควรมีการทำความสะอาดอย่างน้อยทุก 6 เดือน หรือ 3 เดือน เพื่อช่วยรักษาสภาพผิวเมทัลชีทและยืดอายุการใช้งานให้ไม่เสื่อมสภาพเร็วเกินไป
ใช้อะไรทำความสะอาดเมทัลชีท
โดยทั่วใช้เพียงน้ำสะอาดก็ทำความสะอาดพื้นผิวเมทัลชีทได้ แต่หากมีคราบหรือสิ่งสกปรก สามารถใช้สบู่เหลว หรือน้ำยาทำความสะอาดผสมกับน้ำโดยใช้คู่กับฟองน้ำหรือผ้าเนื้อนุ่ม เช็ดทำความสะอาดก่อนแล้วล้างตามด้วยน้ำสะอาดทันทีเพื่อขจัดคราบสบู่หรือคราบน้ำยาทำความสะอาด น้ำที่ใช้ไม่ควรใช้น้ำบาดาลเนื่องจากมีแร่ธาตุมาก ส่วนน้ำยาทำความสะอาด ควรระวังน้ำยาหรือตัวทำละลายที่มีฤทธิ์เป็นกรด ด่าง หรือเกลือ เพราะจะเกิดการกัดกร่อนเมทัลชีทได้ ควรตรวจสอบก่อนนำมาใช้ โดยดูจากฉลากของผลิตภัณฑ์
เมทัลชีทบลูสโคป กับเทคโนโลยีเพื่อความสะอาด (Clean Technology
ทคโนโลยีที่ช่วยในเรื่องความสะอาด คงสภาพพื้นผิวและสีสันที่สวยงามของแผ่นเมทัลชีทให้ยาวนาน และถูกพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษคือ Clean Technology ในผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบสีคัลเลอร์บอนด์ (Colorbond(R) Steel) ของบลูสโคป ด้วยคุณภาพวัสดุที่ได้มาตรฐาน AS/NZS และมอก.2228-2559 ทำให้มั่นใจได้ทั้งความแข็งแรง ทนทาน ทนต่อสภาวะแวดล้อมที่รุนแรงได้ ลดความกังวลเรื่องการผุกร่อนหรือเกิดสนิม เพราะชั้นเคลือบโลหะซิงคาลุมมีอลูมิเนียมที่ช่วยป้องกันชั้นเหล็กจากการสัมผัสชั้นบรรยากาศ และสังกะสีที่จะเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องบริเวณรอยตัดและรอยขูดขีด ส่วนเทคโนโลยี คลีน (Clean Technology) นั้นเป็นการพัฒนาระบบสีที่ช่วยลดการยึดเกาะของคราบฝุ่นและคราบสกปรก ทำให้ไม่ฝังติดบนพื้นผิวของเมทัลชีท ลดปัญหาเรื่องความสกปรกและการผุกร่อนเนื่องจากการเกาะยึดของสารอื่นๆ บนพื้นผิว และยังช่วยให้สิ่งสกปรกถูกชะล้างออกไปได้เมื่อมีฝนตก ทำให้เมทัลชีทสะอาด สวยงามได้ยาวนาน
คุณสมบัติด้านความสะอาดที่ทางบลูสโคปได้พัฒนาขึ้นนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์เมทัลชีทหรือเหล็กเคลือบสีในกลุ่มต่างๆ ของบลูสโคป อาทิ ผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบสีคัลเลอร์บอนด์ (Colorbond(R) Steel), บลูสโคป แซคส์® คูล (BlueScope Zacs® Cool), ผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบโลหะซิงคาลุม (Zincalume®), บลูสโคป แซคส์® (BlueScope Zacs®), จิงโจ้เหล็ก® (JingJoe Lek®) ล้วนมีชั้นเคลือบผิวที่มีความทนทานสูง และสามารถใช้น้ำสะอาดล้างทำความสะอาดเป็นประจำได้ ดูแลง่าย และไม่ต้องเหนื่อยกับการบำรุงรักษาหรือการจัดการที่ยุ่งยากในระยะยาว